เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยพัฒนาประเทศได้อย่างไร
ตอบ เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการจัดหา วิเคราะห์ ประมวลจัดการและจัดเก็บ เรียกใช้หรือแลกเปลี่ยน และเผยแพร่สารสนเทศ ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ว่าจะอยู่ในรูปแบบของรูป เสียง ตัวอักษร หรือภาพเคลื่อนไหว รวมไปถึงการนำสารสนเทศและข้อมูลไปปฏิบัติตามเนื้อหาของสารสนเทศนั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายของผู้ใช้
ในปัจจุบันจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเทคโนโลยีสารสนเทศได้เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นสารสนเทศที่จำเป็นในการประกอบธุรกิจในการค้าขาย การผลิตสินค้า และการให้บริการทางสังคม การจัดการทรัพยากรของชาติ การบริหารและการปกครอง จนถึงเรื่องเบาๆ เรื่องไร้สาระบ้าง เช่น สภากาแฟที่สามารถพบได้ทุกแห่งหนในสังคม เรื่องสาระบันเทิงในยามประกอบการไปจนถึงเรื่องความเป็นความตาย เช่น ข่าวอุทกภัย วาตภัย หรือการทำรัฐประหารและปฏิวัติ เป็นต้น และยังช่วยในการพัฒนาในเรื่องคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการจักการให้บริการสังคมพื้นฐาน อาทิเช่น ด้านการศึกษา และการสาธารณสุข ฯลฯ
2. สารสนเทศสนับสนุนงานขององค์กรอย่างไร บ้าง จงอธิบายพร้อมให้เหตุผลประกอบ
ตอบ เนื่องจาก การเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบันที่มีการแข่งขันสูงขึ้น การตัดสินใจของผู้บริหารต้องทำในเวลาที่จำกัดภายใต้เงื่อนไขต่างๆมากมาย ทำให้บทบาทของสารสนเทศในองค์กรมีมากขึ้นในแง่ของการให้สารสนเทศแก่ผู้บริหารในการช่วยการตัดสินใจทางธุรกิจ จึงทำให้องค์กรตัดสินใจ นำระบบสารสนเทศหรือเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในองค์กร นำมาใช้เทคโนโลยีต่างๆ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่ในองค์กร เช่น การเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติงาน การเพิ่มขีดความสามารถในการทำงาน และการสร้างความต้องการในด้านอื่นๆ นอกจากนี้องค์กร การเมืองในองค์กร ลักษณะการดำเนินการ และวัฒนธรรมองค์กร เป็นต้น
3. เทคโนโลยีสารสนเทศสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันอย่างไรบ้าง
ตอบ สารสนเทศช่วยสนับสนุนการดำเนินกลยุทธ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการลดต้นทุน, การทำให้เกิดความแตกต่างในสินค้า/บริการ, การสร้างนวัตกรรมใหม่, และการสร้างความร่วมมือในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการประสานงานระดับต่าง ๆ ขององค์กร
4. .ให้นักศึกษาอธิบายหัวข้อต่อไปนี้
ระบบสารสนเทศด้านการจัดการโซ่อุปทาน
ตอบ คือการเชื่อมโยงระบบสารสนเทศ (ระบบคอมพิวเตอร์) ของแต่ละธุรกิจในห่วงโซ่อุปทานเข้าด้วยกันยกตัวอย่างเช่น สมมติ ธุรกิจของคุณ คือ ผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ ดังนั้น ในห่วงโซ่อุปทานของคุณ จะเริ่มจาก supplier อาจจะเป็นโรงงาน แปรรูปไม้ จากนั้น ธุรกิจคุณจะนำไม้แปรรูปมาทำการผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์ และส่งขายให้ลูกค้าคุณ อาจจะเป็น ร้านค้าปลีกด้านเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งจะขายต่อให้ผู้บริโภค ultimate consumers อีกต่อหนึ่ง ในโรงงานของคุณอาจจะมีระบบสารสนเทศจัดการด้านสินค้าคงคลัง ตามแผนการผลิต ซึ่ง เมื่อมีความต้องการวัตถุดิบ ข้อมูลดังกล่าวจะส่งไปที่ supplier ในทันที่ ผ่านระบบสารสนเทศ เพื่อ supplier จะทราบว่าธุรกิจคุณต้องการอะไรและดำเนินการจัดส่งมายังโรงงานของคุณเพื่อดำเนินการผลิตได้ทันท่วงที อีกทางหนึ่ง ร้านค้าปลีกด้านเฟอร์นิเจอร์อาจจะมีระบบดังกล่าว เช่นกัน เมื่อลูกค้าซื้อสินค้า และสินค้าคงคลังของร้านค้าปลีกดังกล่าวลดลงในระดับที่ต้องการ ข้อมูลจะถูกส่งมายังบริษัทคุณ เพื่อคุณจะได้ทำการผลิตและจัดส่งไปทดแทนได้ทันที
ระบบสารสนเทศด้านการจัดการลูกค้าสัมพันธ์
ตอบ การจัดการลูกค้าสัมพันธ์ หรือ CRM**(CustomerRelationship Management) คือกระบวนการจัดการสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับตอบสนองความต้องการของลูกค้าด้วยสินค้า หรือบริการเพื่อสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้า การใช้เทคโนโลยีและการใช้บุคลากรอย่างมีหลักการจึงได้ถูกนำมาใช้มากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ในการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ เทคโนโลยีที่ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการจึงถูกเรียกว่า e-CRM (Electronic CustomerRelation Management) ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีออนไลน์บนอินเทอร์เน็ต ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้อย่างผสมผสานในกระบวนการจัดการลูกค้าสัมพันธ์
ระบบสารสนเทศด้านการวางแผนทรัพยากรองค์กร
ตอบ ระบบการวางแผนทรัพยากรองค์การ (Enterprise Resource Planning : ERP) เป็นระบบสารสนเทศที่บูรณาการงานหลักต่างๆ ขององค์การ เช่น การจัดซื้อจัดจ้าง การผลิต การขาย การบัญชี และการบริหารบุคคล ฯลฯ เข้าด้วยกันโดยเชื่อมโยงกันแบบเรียลไทม์ (Real Time) เพื่อตอบสนองความต้องการข้อมูลหรือสารสนเทศโดยภาพรวมและการตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพ
ระบบสารสนเทศด้านการจัดการความรู้
ตอบ ด้วยการวางรากฐานเทคโนโลยีสารสนเทศด้านระบบผู้เชี่ยวชาญ (Expert System) การสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Knowledge Organization) ตลอดจนนวัตกรรมอื่น ทำให้เกิดแนวคิดด้านการจัดการความรู้ (Knowledge Management) โดยองค์การจะมีการใช้และการรับรู้มูลค่าของทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Assets) ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ขององค์กรความหมายของความรู้ความรู้ คือ การพิสูจน์ความเชื่อที่เป็นจริง (Goldmann, 1999 อ้างถึงใน Firestone&McELROY,2003:3) ความรู้ คือ ความสามารถในการปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Arghris,1993 อ้างถึงใน Firestone&McELROY,2003:3)ความรู้ คือ ประสบการณ์หรือสารสนเทศที่สามารถสื่อสารและแบ่งปันกันได้(Alle,1997อ้างถึงใน Firestone&McELROY,2003:3) ความรู้เป็นการผสมผสานของกรอบประสบการณ์ คุณค่า สรสนเทศและการหยั่งเห็น ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ให้กรอบสำหรับการประเมินและการนำประสบการณ์และสารสนเทศใหม่มาผสมผสานรวมกัน (Davenport &Prusak,1995 อ้างถึงใน Tiwana,2002:37)ความรู้ (Knowledge) ตามความหมายพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2542 คือ สิ่งที่สั่งสมมาจากกาศึกษาเล่าเรียน การค้นคว้า หรือประสบการณ์ รวมทั้งความสามารถเชิงปฏิบัติและทักษะความเข้าใจ หรือสารสนเทศที่ไดรับมาจากประสบการณ์ สิ่งที่ได้รับมาจากการได้ยิน ได้ฟัง การคิดหรือการปฏิบัติ องค์วิชาในแต่ละสาขา
ระบบสารสนเทศด้านอัจริยะทางธุรกิจ
ตอบ จากความจำเป็นในการแข่งขันด้านธุรกิจ ส่งผลให้ระบบสารสนเทศต้องมีการปรับตัว และเปลี่ยนแปลงเพื่อตอบสนองความต้องการในเชิงธุรกิจ ที่จริงแล้วคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ระบบสารสนเทศเป็นอาวุธสำคัญชิ้นหนึ่ง ที่มีผลโดยตรงต่อธุรกิจเลยทีเดียว บริษัทหลายแห่งยอมลงทุนด้วยเม็ดเงินจำนวนมากกับระบบเพื่อมุ่งหวังผลการเจริญเติบโตทางธุรกิจ และในเวลาเดียวกันก็มุ่งหวัง การช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในด้านอื่น ๆ มาชดเชยด้วยเช่นกัน เพราะฉะนั้นทั้งระบบจะต้องตอบสนอง และเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้รับมือกับความเปลี่ยนไปได้อย่างทันท่วงที ซึ่งถ้าจะมองไปแล้วระบบเครือข่าย ก็เป็นตัวจักรสำคัญอีกชิ้นหนึ่ง ที่ต้องทำงานประสานกับแอพพลิเคชั่น และผู้ใช้ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ถือเป็นองค์ประกอบที่บริษัทไม่สามารถปล่อย ให้เกิดการหยุดทำงานได้อีกต่อไป ลองสังเกตดูง่ายๆ ในสมัยก่อนถ้าเกิดเหตุการณ์ไฟดับขึ้นมา พนักงานทุกคนก็ไม่สามารถทำงานต่อไปได้ เราจึงต้องมีระบบสำรองไฟขึ้นมาใช้ เช่นเดียวกันกับสมัยนี้ ถ้าระบบเครือข่ายเสียขึ้นมาต่อให้เซิร์ฟเวอร์ และแอพพลิเคชั่นของผู้ใช้ไม่มีปัญหาอะไร พนักงานก็แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย
จากที่กล่าวมานี้เราจึงมีความจำเป็นที่ต้องการระบบเครือข่ายที่สามารถจะปรับเปลี่ยน และยืดหยุ่นมากเพียงพอที่จะรองรับความต้องการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น และนอกจากนี้จะต้องมีระบบปกป้องตัวเองไม่ให้หยุดการทำงานอันเนื่องมาจากอุปกรณ์เสีย วงจรเชื่อมต่อล่ม หรือเลยไปถึงการหยุดให้บริการจากการถูกโจมตีโดยผู้ไม่หวังดีด้วยวิธีการต่าง ๆ จากที่กล่าวมาถึงความสำคัญของระบบเครือข่าย จึงมีแนวความคิดของเครือข่ายแห่งอนาคตที่เรียกว่า “ระบบเครือข่ายสารสนเทศอัจฉริยะ” (IIN:Intelligent Information Network) ที่จะรองรับ และตอบสนองการดำเนินของธุรกิจได้อย่างเต็มที่ นอกจากคุณสมบัติดังกล่าวแล้วระบบเครือข่ายอัจฉริยะ IIN นี้ยังจะมีความสามารถที่ให้บริการ หรือทำงานตามแต่แอพพลิเคชั่นจะร้องขอ โดยบริการเหล่านี้ เมื่อถูกผนวกรวม (Integrated) เข้ากับเครือข่ายแล้วจะส่งผลให้การให้บริการทำงานได้เต็มประสิทธิภาพสูงสุดอีกด้วย เช่นการให้บริการด้านเสียง การเสริมระบบความปลอดภัย หรือแม้กระทั่งการให้บริการแบบไร้สายเป็นต้น
โดย นางสาว ฐิติมา จันทร์เพ็ญ บ.กจ 3/1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น